เงินขาดมือ
วิธีแก้เงินขาดมือ
เป็นปัญหาที่ทำให้คนเป็นทุกข์และกลุ้มใจเป็นอย่างมากบางครั้งชีวิตคนเราอาจตกหลุมอากาศบ้าง มีปัญหาเงินขาดมือ เพราะมีเรื่องต้องใช้จ่ายไม่คาดฝัน อย่างอุบัติเหตุ คนในครอบครัวเจ็บป่วย ญาติพี่น้องต้องการความช่วยเหลือเรื่องเงิน หรือไปลงทุนแล้วขาดทุนบ้าง ฯลฯ ที่เคยมีจ่ายค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ค่าบัตรเครดิตอีกหลายใบ ไม่สามารถจ่ายได้ตรงเวลา เมื่อเจ้าหนี้หลายรายทวงหนี้มากๆ กินไม่ได้นอนไม่หลับ มองไปทางไหนก็พบแต่ทางตัน แต่ทำอย่างไรกันดีล่ะ ในยามที่เป็นทุกข์เช่นนี้ เมื่อเงินขาดมือ เคยอ่านเจอจากอาจารย์ต้นคนวัด โพสไว้ในฟอรัม www.banduangdham.com ท่านกล่าวไว้ว่า
1. ปัญหาเรื่องเงินขาดมือบ่อยๆ สาเหตุที่น่าคิด อาจเป็นไปได้ว่าในกาลก่อนทำทานมาไม่ครบไม่สมบรูณ์ หมายถึงเวลาทำทานอาจรู้สึกเสียดาย เช่น ในตอนแรกก่อนทำ คิดว่าจะทำให้มากพอควร แต่พอจะถึงตอนที่จะทำทานกับมีความเสียดาย เช่น ตอนแรกตั้งใจจะถวายอาหารคาว หวานให้ครบ แด่พระสงฆ์ คือตั้งใจว่า จะทำอาหารคาว 5 อย่าง จะทำอาหารหวาน 5 อย่าง แต่พอถึงเวลาทำจริง กับมานึกเสียดายเงินที่จะซื้อของมาทำ เลย ลดอาหารลง จากในตอนแรกตั้งใจจะถวายอาหารคาว 5 อย่าง ก็ลดลงมาเหลือแค่2 อย่าง อาหารหวานที่เคยตั้งใจเอาไว้ในตอนแรก ก็ลดลงมาเหลือแค่ 2 อย่าง เหตุเพราะเกิดความเสียดายเงินทอง เมื่อลดความตั้งใจลง ทานเลยไม่สมบรูณ์ บางคนก้ไปลดคุณภาพของที่จะทำทานลงไป เช่น ในตอนแรกตั้งใจจะซื้อยาสีฟันคุณภาพดีๆ ไปถวายพระ แต่พอจะไปถวายจริงๆ กับเสียดายเงิน เลยหันไปซื้อ ยาสีฟัน ราคาถูกๆ คุณภาพไม่ค่อยดีไปถวายพระแทน เหตุเพราะความเสียดายเงิน
2. ทำทานเท่ากับที่ได้ตั้งใจเอาไว้ในตอนแรก คือ ตั้งใจจะถวายเงิน 100 ก็ถวายจริงๆ ฯลฯ ผลที่ได้รับ จากอานิสงฆ์ทำทาน คือ ทำให้เงินทองไม่ขาดมือ มีแต่ใช้ แต่ไม่มีเงินเก็บ และยังไม่สามารถช่วยเหลือใครๆได้มาก หรือช่วยก้ได้ไม่มากเท่าไหร่ />
เรื่องเงินขาดมือนั้น อีกสาเหตุนึงก็มาจาก เหตุดังนี้
วัตถุทานที่เอามาทำนั้นได้มาแบบไม่บริสุทธิ์ เช่น ไปลักเขามา ได้มาจากเงินพนันฯลฯ หรือ ได้มาจากการทำลายชีวิต เช่น ลงทุนฆ่าไก่ในบ้านเพื่อเอาทำอาหารไปถวายพระ หรือ บางทีไปวัดนะไม่มีดอกไม้ ก็ลงทุนไปเด็ดในวัดนั้นแหละ ไปถวายพระ หรือไม่ก็แอบไปเด็ดตามรั้วบ้านคนอื่นไปถวายพระฯลฯ (เหตุดังกล่าวนี้จะทำให้เงินขาดมือบ่อยๆ ได้อะไรก็ครึ่งๆกลางๆไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามที่เราต้องการ)
ทำไมเงินขาดมือ แล้วใครถึงไม่ค่อยช่วยเหลือ
ตามกิเลสของคนเรามักหวงแหนเงินทอง เลยไม่ค่อยมีใครใจกว้างช่วยเหลือ เพราะมีกิเลสโลภอยู่มาก ไม่มีใจเอื้อเฟื้อ คนที่เราไปขอความช่วยเหลือนั้นเรากับเขาไม่มีบุญที่เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาก่อน
-เวลาทำทานอย่าไปเสียดาย เพราะความเสียดายนี่แหละทำให้ทานที่ทำไม่สมบรูณ์ ควรทำมากกว่าที่เราตั้งใจไว้นิดนึง เอาให้พอดี อย่าทำเกินตัว จะลำบากกับตัวเราในภายหลัง
- ที่มีใจชนิดแบบเด็ดขาด ให้ทำแบบอดตายก็ยอม ยิ่งสิ่งที่จะทำนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตมากเท่าไหร่เราก็สามารถให้ได้ โดยไม่เสียดาย เช่น มีข้าวเหลือในหม้อนิดเดียว ที่เหลือประทังชีวิต แต่พอเห็นพระสงฆ์ผ่านมากับเอาข้าวที่มีเหลือนิดเดียวนั่นไปถวายพระ โดยที่ไม่เสียดาย แม้จะอดตายก็สามารถทำได้ (ในข้อนี้จัดว่าเป็นมหาทานแบบยิ่งใหญ่ ยอมสละได้แม้กระทั่งสิ่งนั้นมีคุณค่ากับตัวเอง) ดังสมัยพุทธกาล ที่มีคนที่ยากจนมากๆ ถวายผ้าผืนเดียวที่มี หรือถวายข้าวก้อนสุดท้ายที่เหลือพอประทังชีวิตแด่พระพุทธเจ้า หรือพระปัจเจก หรือพระสาวก ด้วยอานิสงฆ์แห่งบุญที่ทำนั้น ทำให้คนยากจนเหล่านั้น กลายเป้นมหาเศรษฐีได้ในพริบตา แบบนี้ก็มี
- ให้พยายามสร้างทานใหญ่ ด้วยวัตถุทาน ธรรมทาน อภัยทาน บ่อยๆ
-การทำทานที่ส่งผลมากคือ ทำทานที่เป็นประโยชนืกับคนหมู่มาก เช่น สร้างถนน โรงพยาบาล สร้างพระองค์ใหญ่ๆ สร้างสะพาน สร้างเจดีย์ สร้างโรงทาน ฯลฯ ยิ่งสิ่งที่ทำนั้นเกิดประโยชน์เท่าไหร่ โชคลาภจะไหลเข้ามาไม่ขาดสาย การเงินคล่องตัว สภาวะความเป็นอยู่ไม่ขัดสน
0 ความคิดเห็น: